วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าค้นคว้าธรรมชาติ…

มนุษย์ใช้ปัญญาเลือกสรรประโยชน์จากสิ่งที่ค้นพบ…

น้ำ…กำเนิดแห่งชีวิต และทุกสรรพสิ่ง

น้ำเป็นสารประกอบมหัศจรรย์เพียงหนึ่งเดียวที่มีถึง 3 สถานะ ได้แก่ ก๊าซ ของเหลว และของแข็ง ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ ถือว่าน้ำเป็นสารที่สำคัญที่สุดที่ช่วยเปิดเผยความมหัศจรรย์ของจักรวาล และความลี้ลับของชีวิต จนอาจกล่าวได้ว่าน้ำคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก เป็นรากฐานแห่งการก่อกำเนิดชีวิต….และเป็นกุญแจดอกสำคัญของการดำเนินชีวิต

พลังของชีวิตขึ้นอยู่กับสัดส่วนของน้ำในร่างกาย

ในร่างกายของเรานี้ น้ำเป็นส่วนประกอบของเลือด ลำเลียงสารอาหารและของเสีย ควบคุมอุณหภูมิ ช่วยย่อยอาหารและช่วยให้ชีวิตชีวาแก่เซลล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ร่างกายของทารกในครรภ์อายุ 7 สัปดาห์ ประกอบด้วยน้ำถึง 95% ในขณะที่ร่างกายของทารกหลังคลอด 7 สัปดาห์มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 75-80% เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ร่างกายจะประกอบด้วยน้ำ 65-70% และเหลือเพียง 50% เมื่อสูงอายุขึ้น จากตัวเลขเหล่านี้ก็พอจะสรุปได้ว่าปริมาณของน้ำในร่างกายเป็นตัวบ่งบอกถึงสภาพของร่างกายด้วย

น้ำให้ชีวิต…คือสิ่งที่ฟ้าประทาน

น้ำระเหยกลายเป็นไอลอยขึ้นสู่เบื้องบน…รับพลังงานจากคลื่นอิเล็กตรอน คลื่นแสง คลื่นเสียง และก๊าซต่างๆ ในอากาศ เช่น ออกซิเจน ไฮโดรเจน โอโซน ฯลฯ…. แล้วกลายเป็นฝนตกลงสู่พื้นโลกตามหลักแรงดึงดูดของโลก…..จากนั้นก็จะซึมผ่านพื้นผิวดินลงไป ดูดซับเอาพลังงานแม่เหล็กโลกและแร่ธาตุต่างๆ ไว้….กลายเป็นน้ำใต้ดินภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำและความกดดันสูง…ก่อกำเนิดเป็น “น้ำให้ชีวิต”

น้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมีลักษณะอย่างไร

เซลล์ที่มีน้ำเพียงพอช่วยให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใส และอ่อนเยาว์ น้ำที่มีคุณค่าต่อร่างกายจึงต้องเป็นน้ำที่เซลล์ดูดซึมได้ดี และมีแรงดึงดูดทางเคมีดีเลิศกับเซลล์ รวมเรียกว่า “น้ำให้ชีวิต” ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ 5 ประการดังนี้

1. “น้ำให้ชีวิต” ต้องไม่ปนเปื้อนมลพิษ เพราะน้ำที่ปนเปื้อนด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเซลล์จะทำให้ร่ายกายเจ็บป่วย

2. “น้ำให้ชีวิต” ต้องมีอิออนของแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพราะร่างกายของเรามีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด หากกระแสไฟฟ้าในร่างกายราบเรียบสม่ำเสมอ เซลล์ก็จะทำงานได้เต็มที่

3. “น้ำให้ชีวิต” ต้องมีกลุ่มโมเลกุล (Cluster) ขนาดเล็กเพื่อให้เซลล์ดูดซึมได้ง่าย

4. “น้ำให้ชีวิต” ต้องดูดซึมพลังงานต่างๆ จากธรรามชาติได้ดี ร่างกายของเราดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของชีวิตด้วยการรับพลังงานจากธรรมชาติ น้ำเป็นสื่อกลางที่สำคัญที่สุดในการนำพลังงานธรรมชาติมาใช้ น้ำที่มีคุณภาพจึงต้องมีพลังงานไฟฟ้า พลังแม่เหล็ก พลังงานอิเล็กตรอน พลังงานจากคลื่นแสงและคลื่นเสียง กล่าวโดยสรุปก็คือ น้ำที่มีคุณค่าจะต้องเปี่ยมด้วยพลังชีวิตจากธรรมชาติอย่างที่เซลล์ต้องการ

5. “น้ำให้ชีวิต” ต้องมีรูปโครงสร้างโมเลกุลเป็นรูปหกเหลี่ยม ทั้งนี้เพราะ DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมนั้น มีโครงสร้างเป็นรูปหกเหลี่ยม ในขณะที่เซลล์ที่เจ็บป่วยจะมีน้ำที่มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นรูปห้าเหลี่ยมหรือแบบลูกโซ่

คุณภาพ…น้ำดื่มปัจุบันเป็นอย่างไร ...?!!

ตัวอย่างผลหลังการดื่มน้ำ Waters Mineral Pot

วอเตอร์ส มิเนอรัล พอท รุ่น ไบโอ

วอเตอร์ส มิเนอรัล พอท รุ่น ไบโอ คือ ประดิษฐกรรมใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อทำให้น้ำที่จะนำไปบริโภคนั้นมีความสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อโรคและสารเคมีที่เป็นอันตราย ทั้งยังสามารถคงคุณสมบัติที่ดีของน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งจะมีกระบวนการทำงานตามขั้นตอนด้วยระบบต่างๆ ดังนี้ คือ

1. ระบบการกำจัดมลพิษที่ปนเปื้อนในน้ำของวอเตอร์ส มิเนอรัล พอท รุ่น ไบโอ

4กำจัดอินทรียสาร

- ด้วยการดูดซึมโดยถ่านกัมมันต์

- ด้วยการดูดซึมโดยทรายปะการัง

- ด้วยกระบวนการอ๊อกซิไดซ์โดยโอโซน*

4กำจัดโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

- ด้วยการแลกเปลี่ยนประจุกับอิออนแคลเซี่ยมในทรายปะการัง

- ด้วยการแลกเปลี่ยนประจุกับอิออนที่มีประจุบวกโดยซีโอไลต์*

- ด้วยการแลกเปลี่ยนประจุกับอิออนสังกะสีของ K.D.F.*

4ฆ่าและระงับการแพร่พันธุ์ของเชื้อโรค

- ฆ่าเชื้อโรคด้วยแร่เงินในโซมีไลต์

- ฆ่าเชื้อโรคด้วยโอโซน*

- ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลท**

หมายเหตุ * มีอยู่ในเครื่องรุ่น BIO AUTOMATIC และ BIO HOT & COOL

2. แร่ธาตุในน้ำจากวอเตอร์ส มิเนอรัล พอท รุ่น ไบโอ

4 ได้รับแร่ธาตุต่างๆ ประมาณ 20 ชนิด (ตามตารางที่ 1) จากทรายปะการังที่มาจากท้องทะเลใสบริสุทธิ์แถบแปซิฟิคตอนใต้ ยิ่งไปกว่านั้นปริมาณอิออนของแคลเซียมและแมกนีเซียมยังทำให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้นด้วยเช่นกัน

4ได้รับแร่ธาตุอีกหลายชนิด (ตามตารางที่ 2) จากหินแร่ชนิดพิเศษที่ผสมกับอ๊อกไซด์ของธาตุที่หายากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมาเนียมและซีเลเนียม จะเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งที่ทำให้น้ำนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

3. กลุ่มโมเลกุล (Cluster) มีขนาดเล็กลงได้โดย

4 จากการที่น้ำนั้นอุดมด้วยอิออนของแร่ธาตุต่างๆ

4 จากการที่น้ำนั้นอุดมด้วยพลังงานไฟฟ้า พลังแม่เหล็กและพลังงานอีเล็คตรอน

4 จากอุณหภูมิต่ำ

4. พลังงานในน้ำจากวอเตอร์ส มิเนอรัล พอท รุ่น ไบโอ

4 พลังงานอินฟราเรด ได้จากส่วนประกอบของไบโอเซรามิคที่ทำมาจากแร่ธาตุพิเศษและนำมาเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1600 องศาเซลเซียส

4 พลังงานไฟฟ้า ได้รับจากแร่ธาตุที่มีประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติ

4 พลังแม่เหล็ก ได้รับจากแม่เหล็กที่ออกแบบพิเศษ

4 พลังงานอีเล็คตรอน ได้รับจากอัลคาไลต์ดิสเก็ตที่ทำจากหินแร่ชนิดพิเศษที่ผสมกับอ๊อกไซด์ของธาตุที่หายาก

5. โครงสร้างโมเลกุลของน้ำเปลี่ยนเป็นรูปหกเหลี่ยมได้โดย

4 เป็นผลจากแคลเซียมที่ปล่อยออกมาจากทรายปะการัง (Activated Coral Sand)

4 เป็นผลจากพลังแม่เหล็กที่ปล่อยจากแม่เหล็กที่ออกแบบพิเศษ (Multi-Electric Pole Magnet)

4 เป็นผลจากกระบวนการอีเลคโทรไลต์เซชั่น (Electrolyzation) ของไฟฟ้าที่ได้จากหินแร่ที่มีประจุไฟฟ้าในอัลคาไลต์ดิสเก็ต

siriwat Tel. 080 5525600

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ กรุณาติดต่อ

คุณ สิริวัฒน์ หาญพานิช Tel. 080 5525600 083 7650339

E:mail cbpmacsumsuk@gmail.com

WHAT MACSUMSUK

แมกซัมซุก หินมหัศจรรย์ เป็นแร่หินธรรมชาติ ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้นำมาใช้ประโยชน์ในการดูแล บำบัดสุขภาพที่เสื่อมหินนี้จะสามารถแผ่คลื่นรังสีฟาร์อินฟาร์เรด ที่มีความถี่ 8-11 ไมครอน ซึ่งช่วงแสงที่ตามนุษย์มองไม่เห็นสามารถทะลุ ผ่านผิวหนัง ผ่านกล้ามเนื้อ ทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น เหมือนได้ออกกำลังกาย

FAR INFRARED คืออะไร มีข้อดีอย่างไร

เป็นรูปแบบของพลังความร้อนจากแสงอาทิตย์ ที่ไม่ต้องอาศัยอากาศเป็นสื่อกลางในการนำความร้อน

เป็นพลังงานที่อยู่ในย่านที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เรารู้สึกและรับรู้ได้จากความอบอุ่นที่ส่องมาของดวงอาทิตย์

โดยปกติร่างกายรอบตัวเรา ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการใช้ความร้อนบนฝ่ามือ เพื่อการบำบัดช่วยรักษาโรคของคนยุคโบราณที่ไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด

Far infar red นั้นเป็นระบบความร้อนเดียวกันที่ส่งมาจากแสงดวงอาทิตย์ ที่จะทำให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น

เป็นพลังงานความร้อน( FIR )ที่อยู่ในช่วงความถี่ยาว 8.0-14.0 ไมครอน ซึ่งเป็นช่วงพลังงานความร้อนที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย

ช่วงคลื่นแสง

ที่เป็นช่วงคลื่นสั้นนั้น ( สูง ) ตามนุษย์รับรู้ได้ ประกอบด้วยแสงสีม่วงไล่ลงมาจนถึงแสงสีแดง
ช่วงรังสีแกมม่า ( gramma ray ) และช่วงรังสีแอกซ์ ( X- ray : 0.1 nm < 1 < 300 nm )

เป็นช่วงที่มีพลังงานสูงแผ่รังสีจากปฎิกิริยานิวเคลียร์ หรือจากกัมมันตรังสี

ช่วงอัลตราไวโอเลต เป็นช่วงที่มีพลังงานสิ่งมีชีวิต

ช่วงอินฟราเรด ตามนุษย์มองไม่เห็น แบ่งแยกออกเป็นอินฟราเรดคลื่นความร้อนดังนี้

» Near Infrared ( NIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.7 ถึง 1.5 Miron

» Middle Infrared ( MIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ใช่วงระหว่าง 1.5 ถึง 5.6 Micron

» Far Infrared ( FIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 5.6 ถึง 1000 Micron

ฟาร์อินฟราเรด

ให้ความร้อนที่สามารถเข้าสู่กล้ามเนื้อของรางกายโดยตรงสู่เนื้อเยื่อและเซลล์ได้ลึกถึง 1.5 นิ้ว และร่างกายสามารถรับ

ได้ 93 %ของคลื่นความร้อนทั้งหมดที่ส่งมายังผิวหนัง ซึ่งประโยชน์และคุณสมบัตินี้แตกต่างจากตู้อบความร้อนทั่วไป

ประโยชน์ 1.ช่วยให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว 2.ช่วยกระบวนการเผาผลาญอาหารภายในเซลล์ 3.ช่วยให้เลือดไม่หนืด เลือดไหลเวียนดีขึ้น 4.ช่วยกำจัดสารพิษสารเคมี ลดอนุมูลอิสระ 5.ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ หรือเสื่อมสภาพ 6.ช่วยปรับระบบประสาทให้สมดุลยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรค 1.ไขข้ออักเสบ ปวดข้อ เก๊าท์ 2.หลอดเลือดอุดตัน ความดัน 3.อัมพฤกษ์ อัมพาต อ่อนแรง 4.หลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจวาย 5.ผิวหนังแห้ง รูขุมขนอุดตัน 6.เครียดนอนไม่หลับ อ่อนล้า 7.ท้องผูกกระเพราะอักเสบ 8.ริดสีดวง 9.โลหิตจาง 10.ไตวาย ไตเสื่อม 11.ปวดประจำเดือน 12.หอบหืด ภูมิแพ้ต่างๆ เป็นต้น